Thursday, September 29, 2016

คณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย ได้ไปยื่นหนังสือถึง Grace Napolitano สมาชิกสภาคองเกรส (Congresswoman) ประจำแคลิฟอร์เนีย เขต 32

วันพุธที่ 28 กันยายน 2559

คณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย ได้ไปยื่นหนังสือชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือจาก Grace Napolitano สมาชิกสภาคองเกรส (Congresswoman) ประจำแคลิฟอร์เนีย เขตปกครอง 32  โดยมีตัวแทนของท่านคือ Perla Hernandez Trumkul ผู้อำนวยการประจำเขต (District Director) เป็นผู้รับหนังสือแทน

   เนื้อหาในหนังสือความว่า "หลวงพ่อของเราถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรม และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หลวงพ่อเราซึ่งเป็นผู้นำของวัดพระธรรมกาย ที่มีศูนย์สาขากว่าสองร้อยแห่งทั่วโลก และมีศูนย์สาขาในโซนอเมริกา 18 ศูนย์ ท่านทำงานด้านส่งเสริมสันติภาพโลก โดยสอนให้คนทั้งโลกนั่งสมาธิเพื่อให้เกิดสันติสุขภายใน  สันติสุขของโลกก็จะตามมา ศูนย์สาขาอยู่ที่เมืองอาซูซ่า รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดทำการมา 20 กว่าปี มีกิจกรรมเปิดคลาสสอนคนท้องถิ่นที่วัดสัปดาห์ละ 2 วัน ออกไปจัดสอนสมาธินอกสถานที่ มีห้องสมุด โรงเรียน โรงพยาบาล แม้กระทั่งในคุก เพื่อให้คนพบสันติสุขภายใน"

   บรรยากาศของการไปยื่นหนังสือในครั้งนี้ Perla Hernandez Trumkul (District director) ซึ่งเป็นผู้แทนของท่านสมาชิกสภาคองเกรส ได้ต้อนรับอย่างดีมาก เธอเชิญคณะที่ไปเข้าห้องประชุม และทักทายจับมือพูดคุยกับทุกคนแนะนำผู้ช่วยอีก 2 คนมาร่วมรับฟังปัญหาของเราด้วย ได้พูดคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อ เธอรับฟังและมีท่าทีต้องการช่วยเหลืออย่างดีมาก เธอบอกว่าเธอไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธอคุ้นเคยกับสังคมคนไทยมาก เธอเข้าใจดี ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ผู้นำทางศาสนาของประเทศอื่นๆก็ถูกกระทำเช่นกัน หลังจากรับฟังปัญหา พูดคุยกันแล้ว เธอบอกว่าจะรีบดำเนินการ ส่งเรื่องไปถึงท่านสมาชิกสภาคองเกรส และรีบดำเนินการส่งไปยัง ดีซี ทันที ในนามของ Congresswoman Grace Napolitano 

นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการมีส่วนช่วยปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่โลกตลอดไป

ขออนุโมทนาบุญคณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียทุกท่านครับ


รายงานข่าวโดย...

อ.อินทปัญญา
๒๙ ก.ย. ๕๙ 

                         Congresswoman Grace Napolitano
 


 ภาพบรรยากาศการไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม









Congresswoman Grace Napolitano ยืนอยู่ด้านซ้ายมือของประธานาธิบดีโอบาม่า



Wednesday, September 28, 2016

ชาวอเมริกัน เข้าคลาสสมาธิครั้งแรกได้ประสบการณ์ภายในที่มหัศจรรย์ ใจหยุดนิ่งได้ และเห็นแสงสว่างภายใน

วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย จัดคลาสสมาธิสำหรับชาวท้องถิ่นทุกวันพุธและวันอาทิตย์
ในวันพุธ ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๙ มีชาวท้องถิ่นมาร่วมปฏิบัติธรรม ๑๑ คน
      มีผู้หญิงชาวอเมริกันคนหนึ่งเพิ่งมานั่งร่วมปฏิบัติธรรมเป็นครั้งแรก ได้แชร์ประสบการณ์ว่า "ปกติแล้วใจของเธอวุ่นวายมาก แต่วันนี้เธอรู้สึกประหลาดใจมากๆว่า ใจของเธอหยุดนิ่งได้ และเห็นแสงสว่างอยู่ข้างใน มีความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก ขอบคุณที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ทำให้เธอได้มีโอกาสพบความสุขอย่างนี้ที่ไม่เคยได้รับที่ไหนมาก่อน"


ขออนุโมทนาบุญและเอาบุญมาฝากครับ

รายงานข่าวโดย...
อ.อินทปัญญา 
๒๙ ก.ย. ๕๙



ศึกษากรณี : พวกเดียรถีย์จัดสร้างวัด ใกล้พระเชตวัน



                   ทราบมาว่า ในปฐมโพธิกาล พวกเดียรถีย์  เห็นพระศาสดาที่ทรงถึงความเลิศด้วยยศและลาภ พากันคิดแล้วว่า พระสมณโคดมถึงความเลิศด้วยลาภและยศ ก็ศีลหรือสมาธิอย่างอื่นไรๆ ของพระสมณโคดมนั้นไม่มี พระสมณโคดมนั้นถึงความเลิศด้วยลาภและยศอย่างนี้ เป็นเหมือนถือเอาพื้นแผ่นดินที่สมบูรณ์เป็นเลิศ ถ้าแม้พวกเราอาจให้สร้างวัดใกล้พระเชตวันได้ ก็จะพึงเป็นผู้ถึงความเลิศด้วยลาภและยศอย่างนี้ เป็นเหมือนถือเอาพื้นแผ่นดินที่สมบูรณ์เป็นเลิศ ถ้าแม้พวกเราอาจให้สร้างวัดใกล้พระเชตวันได้ ก็จะพึงเป็นผู้ถึงความเลิศด้วยลาภและยศ.
               เดียรถีย์เหล่านั้นจึงชักชวนอุปัฏฐากของตนได้ประมาณแสนคน ได้กหาปณะ แล้วได้พาอุปัฏฐากเหล่านั้นไปราชสำนัก.
               พระราชา(ปเสนทิโกศล) ตรัสถามว่า นี่อะไรกัน. ทูลว่า พวกข้าพระองค์จะสร้างวัดของเดียรถีย์ใกล้เชตวัน ถ้าว่าพระสมณโคดม หรือพวกสาวกของพระสมณโคดมจักมาห้ามไซร้  ขอพระองค์อย่าให้เพื่อจะห้ามเลย  แล้วได้ถวายสินบน.
               พระราชารับสินบนแล้วตรัสว่า พวกท่านจงไปสร้างเถิด.
               พวกเดียรถีย์นั้น จึงให้พวกอุปัฏฐากของตนขนทัพพสัมภาระมา แล้วทำการยกเสาเป็นต้น เปล่งเสียงอึกทึกลือลั่น ทำโกลาหลเป็นอย่างเดียวกัน.
               พระศาสดาเสด็จออกจากพระคันธกุฎีประทับที่หน้ามุข ตรัสถามแล้วว่า อานนท์ ก็คนพวกนั้นเหล่าไหน เห็นจะเป็นพวกชาวประมง เปล่งเสียงอึกทึกลือลั่น แย่งปลากันอยู่.
               อา. พวกเดียรถีย์สร้างวัดของเดียรถีย์ใกล้พระเชตวัน พระเจ้าข้า
               ศ. อานนท์ พวกนี้เป็นศัตรูต่อศาสนา จะทำให้อยู่ไม่เป็นสุขแก่หมู่ภิกษุ เธอจงทูลพระราชาและให้รื้อออกไป.
               พระเถระพร้อมด้วยหมู่ภิกษุได้ไปยืนที่พระทวารหลวง. ราชบุรุษทั้งหลายกราบทูลแก่พระราชาว่า ข้าแต่สมมติเทพ พวกพระเถระมาเฝ้า. พระราชามิได้เสด็จออกไป เพราะได้รับสินบนไว้แล้ว. พระเถระทั้งหลายจึงไปกราบทูลพระศาสดา.
               พระศาสดาทรงส่งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะไป. พระราชาไม่ได้พระราชทาน แม้การเฝ้าแก่พระเถระทั้งสองนั้น พระเถระเหล่านั้นจึงมากราบทูลพระศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาไม่ได้เสด็จออกเลย.
               พระศาสดาทรงพยากรณ์ในขณะนั้นทีเทียวว่า พระราชาดำรงอยู่ในราชสมบัติของตนจักไม่ได้เพื่อจะทำกาละ. วันที่สอง พระองค์นั่นเทียวมีหมู่ภิกษุเป็นบริวาร ได้เสด็จไปประทับยืนที่ประตูหลวง.
               พระราชาทรงสดับว่า พระศาสดาเสด็จมาแล้ว จึงเสด็จออกไปกราบทูลให้เสด็จเข้านิเวศน์ ให้ประทับนั่งบนสารบัลลังก์ ได้ทรงถวายข้าวต้มและของเคี้ยว.
               พระศาสดาเสวยข้าวต้มและของเคี้ยวแล้ว ไม่ตรัสว่า “มหาบพิตร พระองค์ทำเหตุนี้แล้ว” กะพระราชาผู้เสด็จมาประทับนั่งด้วยพระราชดำริว่า เราจักนั่งในสำนักของพระศาสดาจนกว่าพระกระยาหารจะเสร็จ. จึงทรงดำริว่า เราจะให้พระราชานั้นยินยอม ด้วยเหตุทีเดียว จึงทรงนำเหตุในอดีตนี้มาว่า มหาบพิตร ขึ้นชื่อว่าการให้พวกบรรพชิตรบกันและกันไม่สมควร พระราชาทรงให้พวกฤาษีเหล่านั้นรบกันและกันแล้ว ได้จมมหาสมุทรไปพร้อมกับแว่นแคว้น.
               พระราชาตรัสถามว่า เมื่อไร ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
               มหาบพิตร ในอดีต พระราชาพระนามว่า ภุรุ ในแว่นแคว้นภุรุ ครองราชสมบัติอยู่. คณะฤาษี ๒ คณะๆ ละ ๕๐๐ ไปจากเชิงภูเขาภุรุนครเพื่อจะเสพรสเค็มและเปรี้ยว.
               ที่ไม่ไกลพระนครมีต้นไม้อยู่สองต้น. คณะฤาษีที่มาก่อนนั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง. แม้คณะฤาษีที่มาภายหลังก็ได้นั่งที่โคนต้นไม้อีกต้นหนึ่ง. พวกฤาษีได้อยู่ตามความพอใจแล้วไปที่เชิงเขาเทียว. พวกฤาษีนั้นแม้มาอีกก็ได้นั่งในที่หนึ่งแห่งโคนต้นไม้ของตน. พวกฤาษีนั้นที่มาภายหลังก็ได้นั่งที่โคนต้นไม้ของตนเหมือนกัน.
               เมื่อเวลาผ่านไปนาน ต้นไม้ต้นหนึ่งแห้ง (ตาย). พวกดาบสที่ต้นไม้แห้งนั้นคิดว่า ต้นไม้ต้นนี้ (ต้นที่ไม่แห้ง) ใหญ่จักเพียงพอแม้แก่พวกเรา แม้แก่ดาบสเหล่านั้น จึงนั่งในที่แห่งหนึ่งของต้นไม้ของพวกดาบสนอกนี้.
               ดาบสเหล่านั้นมาแล้วภายหลังไม่เข้าไปที่โคนไม้นั้น ดาบสเหล่านั้นกล่าวว่า ท่านอาจารย์ ต้นไม้ของพวกกระผมแห้งตาย ต้นไม้นี้ต้นใหญ่ แม้พวกท่านก็จงเข้าไปเถิด จักพอแม้แก่พวกท่าน.
               พวกดาบสกล่าวว่า พวกเราจะไม่เข้าไป พวกท่านจงออกไป แล้วขยายถ้อยคำกล่าวว่า พวกท่านจักไม่เต็มใจออกไปหรือ จึงจับที่มือเป็นต้นดึงออกไป.
               ดาบสเหล่านั้นจึงคิดว่า ช่างเถิด เราจักให้พวกฤาษีนั้นสำเหนียก แล้วนิรมิตล้อ ๒ ล้อสำเร็จด้วยทองและเพลาสำเร็จด้วยเงินด้วยฤทธิ์ได้ให้หมุนไปพระทวารหลวง. พวกราชบุรุษกราบทูลคำเห็นปานนี้ให้พระราชาทรงทราบว่า พระเจ้าข้า พวกดาบสถือเครื่องบรรณาการยืนอยู่แล้ว.
               พระราชาทรงยินดีแล้วตรัสว่า พวกท่านจงเรียกมา ให้เรียกมาแล้วตรัสว่า พวกท่านทำกรรมใหญ่แล้ว เรื่องไรๆ ที่ข้าพเจ้าจะพึงทำแก่พวกท่านมีอยู่หรือ.
               ดา. ขอถวายพระพร มหาบพิตร มีโคนต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเป็นที่นั่งของพวกข้าพระองค์ โคนไม้นั้นถูกพวกฤาษีอื่นยึดแล้ว ขอพระองค์จงให้พวกฤาษีโคนไม้นั้นแก่พวกข้าพระองค์.
               พระราชาจึงส่งพวกบุรุษไปให้คร่าพวกดาบสออกไป.
               พวกฤาษีที่ยืนภายนอก แลดูอยู่ว่า พวกดาบสนี้ให้อะไรหนอแลจึงได้แล้ว เห็นว่าชื่อนี้ จึงคิดว่า ถึงแม้พวกเราให้สินบนแล้วก็จะถือเอาอีก จึงนิรมิตหน้าต่างรถแล้วด้วยทองด้วยฤทธิ์ ถือไปแล้ว.
               พระราชาทรงเห็นแล้วยินดี ตรัสว่า เจ้าข้า ข้าพเจ้าพึงทำอย่างไร.
               พวกดาบสทูลว่า มหาบพิตร คณะฤาษีอื่นนั่งที่โคนไม้ของพวกข้าพระองค์ ขอพระองค์จะประทานโคนไม้นั้นเถิด.
               พระราชาทรงส่งพวกบุรุษไปให้คร่าดาบสเหล่านั้นออกไป.
               พวกดาบสทำการทะเลาะกันและกันแล้ว เป็นผู้เดือนร้อนว่า พวกเราทำกรรมไม่สมควรแล้ว จึงได้ไปเชิงเขาแล้วแล.
               ลำดับนั้น เทวดาโกรธแล้วว่า พระราชานี้รับสินบนจากมือของคณะดาบสแม้ทั้งสอง ให้ทำการทะเลาะกันและกัน จึงทดมหาสมุทรทำที่แห่งหนทางประมาณพันโยชน์แห่งแว่นแคว้นของพระราชานั้นให้เป็นสมุทรทีเดียว.
                         ข้าพเจ้าได้ฟังมาว่า ภุรุราชา ทำให้ดาบส
                         ทั้งหลายมีระหว่างใน (แตกกัน) พระราชา
                         นั้น พร้อมกับแว่นแคว้นจึงถูกทำลายแล้ว
                         ถึงความเสื่อมแล้ว.๑-
____________________________
๑- ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๒๗๕

               ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอดีตนี้อย่างนี้แล้ว เพราะขึ้นชื่อว่าถ้อยคำของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย บุคคลควรเชื่อ เหตุนั้น พระราชาทรงกำหนดใคร่ครวญกิริยาของพระองค์แล้ว ทรงดำริว่า กรรมที่ไม่ควรทำเราได้ทำแล้ว จึงตรัสว่า พนาย พวกท่านจงไปคร่าเอาพวกเดียรถีย์ออกไป.
               ครั้นให้คร่าออกไปแล้วทรงดำริว่า วิหารที่เราให้สร้างยังไม่มี เราจักให้สร้างวิหารในที่นั้นนั่นแหละ แล้วไม่พระราชทานทัพพสัมภาระแก่เดียรถีย์เหล่านั้น ทรงให้สร้างวิหารแล้ว.
               คำนั้น (ราชการาม) พระสังคีติกาจารย์กล่าวแล้วหมายเอาวิหารนั้น.

               จบอรรถกถาสหัสสสูตรที่ ๑              
               -----------------------------------------------------            
                                                                                                                       (อรรถกถา สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค โสตาปัตติสังยุตต์ ราชการามวรรคที่ ๒)


เผยแผ่ธรรมโดย...
อ.อินทปัญญา
๒๙ ก.ย. ๕๙

ลูกพระธัมฯวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย พร้อมใจกันบวชอุบาสกแก้วอุบาสิกาแก้ว เนื่องในวันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

ลูกพระธัมฯ วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย
กตัญญูบูชา จัดบวชอุบาสก - อุบาสิกาแก้ว วันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

   เมื่อวันที่  ๑๕ - ๑๘  กันยายน ๒๕๕๙  วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย ได้จัดโครงการบวชอุบาสก - อุบาสิกาแก้ว เนื่องในวันบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย มีศรัทธาสาธุชน สนใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน ๔๒ ท่าน เป็นอุบาสก ๓ ท่าน อุบาสิกา ๓๙ ท่าน ทุกท่านได้ร่วมกิจกรรม เข้ากะสวดธัมมจักฯครบ ๓๘ ชั่วโมง นั่งเนสัชชิกังคัง ๓๘ ชั่วโมง ตักบาตรคณะสงฆ์ ผู้เป็นเนื้อนาบุญ ๑๕ รูป ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน และกิจกรรมความดีสากล การดูแลความสะอาดศาสนสถาน ที่แต่ละท่านได้มาใช้เป็นสถานที่สะสมบุญ
 
   ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการ ได้รับความสุข ความสงบภายใน มีความปลื้มปิติใจกันถ้วนหน้า ตั้งใจว่า ถ้ามีโครงการอย่างนี้อีก จะเข้าร่วมโครงการทุกครั้ง
  
   ขออนุโมทนาบุญกับผู้เข้าร่วมโครงการ และทีมงานทุกท่าน

   เอาบุญมาฝากครับ


รายงานข่าวโดย....
อ.อินทปัญญา







บรรยากาศการเข้ากะสวดธัมมจักฯ ๓๘ ชั่วโมง บูชาธรรมหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ















Tuesday, September 27, 2016

ร้านอาหารบ้านไทย เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำบุญร้านครบรอบ 5 ปี


กัลฯแซม-กัลฯเกด ปาระเคน
เจ้าของร้านอาหารบ้านไทย เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
ทำบุญในวาระเปิดร้านครบ 5 ปี
นิมนต์คณะสงฆ์จากวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย จำนวน 5 รูป
มาเจริญพุทธมนต์และฉันภัตตาหารเพลที่ร้าน
คณะญาติพี่น้อง พนักงานและเพื่อนๆชาวซานดิเอโก มาร่วมบุญกันอย่างล้นหลาม ได้มีโอกาสประเคนภัตตาหารแด่คณะสงฆ์และฟังธรรมจากพระอาจารย์ ก่อนกลับได้รับของพระของขวัญเป็นเหรียญหลวงปู่วัดปากน้ำภาษาเจริญไว้บูชาคนละ 1 เหรียญ ทุกคนมีความปลาบปลื้มในบุญที่ได้ทำในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนาบุญครับ










 รายงานข่าวโดย...
อ.อินทปัญญา
26 ก.ย. 59

ลูกพระธัมฯซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย ร่วมใจกันสวดธัมมจักฯร่วมเป็น ๑ ใน ๓ ล้านจบ บูชาธรรมพระมงคลเทพมุนีในวาระวันคล้ายวันเกิด






 
วันอาทิตย์ 25 กันยายน 2559
ศูนย์ปฏิบัติธรรมซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

โดยมีกัลฯบุนทัน - กัลฯแถว สอประเสริฐ เป็นผู้นำบุญ
ได้จัดปฏิบัติธรรมและสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
โดยได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย จำนวน 5 รูป มาเป็นเนื้อนาบุญ

พระอาจารย์ได้นำปฏิบัติธรรมและแสดงธรรมให้ฟัง ทำให้เกิดความอิ่มเอิบใจและปิติในการสร้างบุญกันถ้วนหน้า
มีสาธุชนมาร่วมกิจกรรมจำนวน 15 ท่าน
ขออนุโมทนาบุญและเอาบุญมาฝากครับ




รายงานข่าวโดย...
อ.อินทปัญญา
25 ก.ย. 29







Monday, September 26, 2016

รู้ไหม? คนอเมริกัน‼️แห่ฝึกสมาธิ เพราะเหตุผลอะไร หาคำตอบได้ที่นี่

คนอเมริกัน‼️แห่ฝึกสมาธิ 
เพราะเหตุผลเดียว

วันเสาร์ ที่ 24 กันยายน 2559 วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย
จัดกิจกรรม
One-day meditation retreat "Talk  Less... Sit More"
สำหรับชาวท้องถิ่น 


          กิจกรรมนี้มีชาวท้องถิ่นมาร่วมปฏิบัติธรรมจำนวน 22 ท่าน

กิจกรรมช่วงสาย
กิจกรรมปฏิบัติธรรมโดยพระอาจารย์โสภณ ปญฺญาโสภโณ อธิบายเรื่องการปฏิบัติธรรมเบื้องต้นแล้วนำปฏิบัติธรรม
 

หลังอาหารกลางวันที่หอฉัน ก็เปิดโอกาสให้ชาวท้องถิ่นได้ถามคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม พระครูโสตถิโยธิน เมตตาตอบคำถามให้กับชาวท้องถิ่นอย่างชัดเจนทุกแง่มุม
คำถามที่ชาวท้องถิ่นผู้เข้าร่วมปฏิบ้ติธรรมถาม มีดังนี้
1) ความสุขคืออะไร?
2) จะบวชเป็นพระได้ต้องใช้เวลาเท่าไร และต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง?
3)  เวลาไหนที่เหมาะจะนั่งสมาธิที่สุด?
4)ทำไมถึงเรียกว่าการนั่งสมาธิแบบ "Middle way Meditation?
" คำว่า Middle หมายถึงอะไร?
หลังจากนั้น พระศราวุฒิ วิริยวํโส นำ Walking-Meditation ตามด้วยกิจรรมเป่าลูกโป่ง Bubble Blowing


กิจกรรมช่วงบ่าย
พระอาจารย์อนุชิต ติกฺขวีโร พระอาจารย์ศราวุฒิ และพระอาจารย์โสภณ แนะนำการนั่งสมาธิแก่ชาวท้องถิ่น พร้อมกับจุดเทียน เพื่อให้แสงเทียนส่องแสงสว่างไสว เป็นการแผ่สันติสุขให้กับโลก และผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11
จากนั้นก็มีการออกกำลังยืดเส้นยืดสาย
และปฏิบ้ติธรรมรอบสุดท้าย
พระอาจารย์เชิญชวนให้ผู้ปฏฺิบัติธรรม เข้าร่วมโปรแกรมทำการบ้าน ๑๐ ข้อของพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี
โดยนำสมุดบันทึกผลปฏิบัติธรรมและการบ้าน 10 ข้อ มาส่งต่อเนื่องกันครบ 4 สัปดาห์ จะได้รับดวงแก้วขนาดเล็กที่ใส่กรอบแล้วอย่างสวยงาม

ปิดท้ายด้วยการให้ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมได้ถามคำถามที่สงสัยเพิ่มเติม
และก่อนกลับผู้ร่วมปฏิบัติธรรมได้ช่วยกันเก็บผ้าคลุมเก้าอี้และเก็บเก้าอี้ รู้สึกอิ่มใจอิ่มบุญกันถ้วนหน้า


   ผลตอบรับจากกิจกรรมครั้งนี้ดีมากๆ ชาวท้องถิ่นที่มาร่วมกิจกรรม ทุกคนมีความประทับใจและดีใจที่ได้ร่วมกิจกรรมทุกอย่าง
ด้วยเหตุผลที่ว่า มาแล้วได้พบความสุขที่แท้จริงภายใน

และรับปากว่า  จะมาร่วมกิจกรรมอีกในครั้งต่อไป
ขออนุโมทนาบุญกับทีมงานทุกรูปทุกท่านครับ


 ขอบคุณภาพและข่าวจากฝ่ายภาพนิ่งและทีมEMC วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย

รายงานข่าวโดย.....
อ.อินทปัญญา
๒๖ ก.ย. ๕๙